How to Achieve Financial Freedom: What It Truly Means and How to Attain It
Many people long for financial freedom—not just to break free from the daily grind, but to stop trading their entire lives for money. True freedom means designing a life on your own terms. This article explores the concept of financial freedom, drawing from insights by financial experts who define it as a life that you have consciously crafted to give yourself full autonomy.
What Is Financial Freedom?
Financial freedom isn’t simply about having a lot of money. It’s about earning income through assets, having control over your time, the freedom to make choices, and the joy that comes with designing your own life.
You’re approaching true financial freedom when you have:
- Income from assets
- Time
- The freedom to choose how to live
- Happiness from designing your own life
The Origin of the Term
The term gained popularity around 2000–2001 with the book Rich Dad Poor Dad by Robert Kiyosaki. The author of this article was deeply inspired by his teachings and began building assets to eventually create a life of independence and self-determination.
Kiyosaki emphasized that while most people earn money through labor, such income stops when they retire. Instead, one should aim for income that flows in—even without working—such as interest, dividends, or rental income. That’s the essence of financial freedom: you earn even when you don’t work.
From Concept to Practice
The author embraced this philosophy, started accumulating land, earned income through rentals, became an online writer, and now receives royalties. In the U.S., for instance, beachfront properties often fetch between $3 to $10 million, making them lucrative assets.
Yet, financial freedom isn’t just about money. It leads to simplicity and a desire to create something meaningful. Many wealthy people donate generously because their motivation transcends money—they find joy in contribution.
Creative Income Streams
Royalties from writing—books, articles, eBooks—and renting advertising space are increasingly common. Since the COVID-19 pandemic, many people have turned to online writing and freelance authorship, promoting their work through easily accessible global platforms.
However, financial freedom doesn’t always require passive income. What’s more important is the freedom to choose. Even if you’re still working, if you choose your hours, your compensation, and whether to work at all, you’ve achieved a vital form of freedom.
So How Do You Achieve It?
1. Design Your Life
The author didn’t begin life with a plan, just followed the typical path—study, work, debt. But a crisis prompted self-reflection. After exposure to spiritual teachings, neuroscience, and success literature, they came to see that the truly wealthy pursue happiness through meaningful contribution—not by chasing money.
2. Stop Worrying About Money
Define clear goals. Want a beachfront house? Specify where, when, and how much you’ll need, then reverse-engineer a plan. Use a multi-income stream strategy: stable job, rental properties, dividends from mutual funds, perhaps start a small business. Even modest earnings from multiple sources can accumulate wealth over time.
People around you who’ve retired with little security are a mirror of your future—unless you make a conscious change.
Final Thoughts
Financial freedom comes when your income no longer depends solely on labor and when you design a life aligned with your passions and values. Don't obsess over the exact formula—adapt it to your path. Let happiness lead, and success will follow naturally.
You don’t have to be rich to be free. But you do need purpose, learning, and a heart that gives meaning to your journey.
บทความฉบับภาษาไทย
อยากมีอิสรภาพทางการเงิน ทำไง ?? เบื่องานประจำ อิสรภาพแท้จริงคืออะไร
บทความนี้ ผู้เขียนนำเรื่องการเงินมาเขียน เชื่อว่าหลายคนอยากมีอิสรภาพทางการเงิน ไม่อยากวิ่งล่าหาเงินตลอดเวลา หรือใช้แรงงานทำงานแลกเงินตลอดชีวิต
ผู้เขียนได้นำแนวคิด อิสรภาพทางการเงิน ของนักบริหารการเงินมืออาชีพให้แนวคิดไว้ได้ดี และให้ความหมายคำว่า อิสรภาพทางการเงินไว้ คือ ชีวิตที่คุณได้ออกแบบตัวคุณเองให้มีอิสระ โดยนักบริหารการเงินมืออาชีพต่างให้แนวคิดไม่ต่างกันทิศทางเหมือนกัน
หากคุณอยากมีอิสรภาพทางการเงิน คุณต้องทำอย่างไร
อิสรภาพทางการเงินไม่ใช่แค่การมีเงินเยอะๆ เพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างรายได้จากทรัพย์สิน มีเวลา มีสิทธิในการเลือกและมีชีวิตที่ได้ออกแบบเอง ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณได้ออกแบบอิสรภาพทางการเงินได้อย่างต้องการและมีความสุข
เมื่อไรคุณมีทั้ง 4 ข้อนี้ คุณกำลังเข้าหมวดสู่อิสรภาพทางการเงิน คือ
1. สร้างรายได้จากทรัพย์สิน
2. มีเวลา
3. มีสิทธิในการเลือกกำหนดชีวิต
4. มีความสุขที่ได้ออกแบบชีวิตให้ตัวเอง
ผู้เขียนเอง ได้ยินได้ฟ้งคำว่าอิสรภาพทางการเงินเมื่อประมาณ 10 ปี มานี้ คำที่เป็นสุดฮิตของกลุ่มนักขายหรือกลุ่มเครือข่ายนำมาปลุกพลังในการประชุมหรือสัมมนา คือ คำว่า อิสรภาพทางการเงิน
ซึ่งเข้าใจว่ามาจากจุดเริ่มต้นช่วงตั้งแต่ปี 2000-2001 จากหนังสือฮาวทู Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก) ของโรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนเองก็เริ่มติดตามแนวคิดของนักเขียนท่านนี้ และใช้หลักคิดมาสร้างเนื้อสร้างตัวจากคนไม่มีทรัพย์สินก็เริ่มสร้างสินทรัพย์เพื่อสู่อิสรภาพทางการเงินในแบบที่ผู้เขียนมีสิทธิในการเลือกกำหนดชีวิตตัวเองได้
อย่างที่โรเบิร์ตเขาตั้งโจทย์ปัญหาทำให้น่าสนใจไว้ได้ โจทย์นั้นก็คือ คนเรามีรายได้จากหลายรูปแบบซึ่งส่วนใหญ่มาจากการทำงาน แต่หากเรามีรายได้จากการทำงานเพียงอย่างเดียว พอถึงจุดที่เราต้องหยุดทำงานเพราะเกษียณ รายได้จากการทำงานต้องหายไป ดังนั้น คนเราจึงควรมีรายได้จากทรัพย์สินอยู่ด้วย แม้เราไม่ใช้แรงงานทำงาน แต่ยังคงมีรายได้ให้เราเสมอนั้น คือคำว่าอิสรภาพทางการเงิน ไม่ทำงานก็มีรายได้
อย่างที่โรเบิร์ตเขาตั้งโจทย์ปัญหาทำให้น่าสนใจไว้ได้ โจทย์นั้นก็คือ คนเรามีรายได้จากหลายรูปแบบซึ่งส่วนใหญ่มาจากการทำงาน แต่หากเรามีรายได้จากการทำงานเพียงอย่างเดียว พอถึงจุดที่เราต้องหยุดทำงานเพราะเกษียณ รายได้จากการทำงานต้องหายไป ดังนั้น คนเราจึงควรมีรายได้จากทรัพย์สินอยู่ด้วย แม้เราไม่ใช้แรงงานทำงาน แต่ยังคงมีรายได้ให้เราเสมอนั้น คือคำว่าอิสรภาพทางการเงิน ไม่ทำงานก็มีรายได้
ฉะนั้น หากคุณมีอิสรภาพทางการเงิน อาจไม่ต้องรอถึงเวลาเกษียณ ซึ่งหลักคิดของโรเบิร์ตก็ คือ ให้ดูว่าในระหว่างการทำงานมีการสร้างสะสมทรัพย์สินที่สร้างรายได้จนมากกว่ารายจ่ายรวมต่อเดือนของเราหรือเปล่า หากมากกว่า ถือว่ามี อิสรภาพทางการเงิน เช่น ดอกเบี้ยจากเงินฝาก ดอกเบี้ยจากพันธบัตร เงินปันผลจากธุรกิจ เงินปันผลจากหุ้น ค่าเช่าจากทรัพย์สิน เช่น บ้านเช่า คอนโดมิเนียม รถให้เช่า จะสังเกตได้ว่าเงินปันผล ค่าเช่าและค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ เกิดจากการทำงานครั้งใหญ่ๆ ครั้งเดียวแล้วเก็บกินผลมันไปตลอด ซึ่งตรงนี้เป็นเหมือนรายได้ที่เราไม่ต้องทำงานแต่มีเงินไหลเข้ามา
จากที่ผู้เขียน ติดตามแนวคิดนี้ จนมีรายได้จากทรัพย์สิน มีที่ดินเป็นของตัวเองนำที่ดินไปปล่อยให้เช่า เก็บค่าเช่า และเข้ามาเป็นนักเขียน ทำงานออนไลน์ สร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ ได้รับค่าลิขสิทธิ์รายเดือน สามารถดูแลชีวิตตัวเองและจ่ายภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนได้
สร้างรายได้จากทรัพย์สิน เช่น ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา สถานที่ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ กลุ่มนักลงทุนมัก มองหาซื้อที่ดิน และสร้างให้เช่าหรือขาย โดยที่ดินที่นิยมจะอยู่แถบติดทะเล มูลค่าจะสูงถึง 3-10 ล้านเหรียญเลย
สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะบอกคุณ ชีวิตจริงๆ ของเรา คือการให้คุณค่าผู้คน พอมาถึงจุดแห่งชีวิตจริงๆ คุณจะมีคำถามว่า ชีวิตที่เหลือของคุณ ต้องการอะไร ต้องบอกว่าคนเราชีวิตไม่ได้ต้องการแค่เงิน เพราะหากเราใช้ชีวิตจริงๆ เมื่อไรคุณมีอิสรภาพทางการเงิน แม้คุณมีเงินไหลเข้าบัญชีทุกเดือนมีเพียงพอใช้จ่าย แต่คุณจะรู้สึกและคิด ขอใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายแบบไทยๆ พอมีรายได้จากทรัพย์สินหรือที่เรียกว่า Passive Income เริ่มใช้ชีวิตให้มีคุณค่า ให้มีเงินมากแค่ไหน เราก็ไม่อยากใช้มัน และบางครั้งรูสึกอยากเก็บไว้สร้างคุณค่าอะไรบางอย่างให้โลกใบนี้ และเราจะยิ่งหารายได้มากขึ้น ไม่แปลกที่เราอาจเคยเห็นคนรวยทำไมนำเงินจำนวนมากไปบริจาคและทำไมเขารวยมากขึ้นทุกๆ ปี เพราะความรู้สึกมากกว่าคำว่าเงิน
สร้างรายได้จากงานเขียนเป็นค่าลิขสิทธิ์ ค่าเช่า ค่าป้ายโฆษณา เช่น หนังสือ , E-book , บทความ นี่ก็เป็นที่นิยม โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 เป็นกระแสมีผู้คนทั่วโลกทำงานออนไลน์ หลายคนสร้างอาชีพเสริม ด้วยการเป็นนักเขียนอิสระ โดยมีช่องทางการจำหน่ายหนังสือ หรือ E-book ให้เลือกมากมายไม่เหมือนสมัยก่อน ยุคนี้ง่ายในการโปรโมทผลงานเขียน หรือคุณจะเป็นนักเขียนบทความเรื่องสั้นก็ทำเงินจากค่าลิขสิทธิ์จากการเช่าป้ายพื้นที่โฆษณาได้
สำหรับแนวคิดที่ว่า จะมีอิสรภาพทางการเงิน ต้องมีรายได้จากทรัพย์สินมากกว่ารายจ่ายรวมนั้น อาจจะไม่จริงเสมอไป เพราะแท้จริงแล้ว สองคำนี้มันแยกออกจากกัน อย่านำมาผูกเป็นเรื่องเดียวกัน รายได้จากทรัพย์สิน ถ้าวันนี้เรามีเงินฝาก เรามีหุ้น เราก็มีดอกเบี้ย มีเงินปันผล อันนี้เรียกว่า Passive Income มากน้อยนั้นอีกเรื่องหนึ่ง
แนวคิดของผู้เขียน “อิสรภาพทางการเงิน” อาจจะไม่ต้องมี Passive Income ก็ได้ สำหรับอิสรภาพจริงๆ แล้ว สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งคือ สิทธิในการเลือก หากไม่มีสิทธิในการเลือกแล้ว หากมีข้อแม้ต้องอย่างนั้นอย่างนี้อาจจะไม่ใช่อิสรภาพที่แท้จริงเพราะชีวิตมนุษย์เราต้องมีสิทธิเลือกความอิสระในแบบที่เราต้องการได้ และใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้ แม้คุณอาจจะยังทำงานแต่เลือกกำหนดเวลาเลือกกำหนดเงินได้ มีอิส
ระ ทำหรือไม่ทำก็ได้
และการมี Passive Income นั้นดีไหม แน่นอน มันต้องดี เพราะช่วยผ่อนแรง และช่วยลดความเสี่ยงให้เรา เพราะฉะนั้น Passive Income มันเป็นทางเลือกหนึ่งของการมีอิสรภาพทางการเงินแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตของเรา ชีวิตของคุณหากคุณได้ทำอะไรที่ให้คุณค่าบางอย่างต่อโลกหรือต่อใครบางคน แม้คุณยังทำงานนั้น แต่ทำด้วยความรัก นั้น คือทางเลือกที่คุณรัก
อยากมีอิสรภาพทางการเงินต้องทำอย่างไร
1. ออกแบบชีวิตให้เป็น
ผู้เขียนเอง ตั้งแต่เล็กจนโต ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความคาดหวังหรือไม่เคยออกแบบชีวิตให้ตัวเองมาก่อน ชีวิตผู้เขียนก็เหมือนคนทั่วไป เรียนจบแล้วก็ไปทำงาน มีหนี้สิน ผ่อนขำระ เจอวิกฤติจึงมีสติ
เมื่อเราเจอทางตัน เราก็มาทบทวนชีวิตตัวเอง หากวันนี้ ชีวิตยังเป็นแบบนี่ เวลาผ่านไปเร็ว อายุไม่เคยรอคอยเดินทุกปี หากเราไม่มีแรงทำงานทำไง คำถามเข้ามาในหัวมากมาย อยากรวยแน่นอนไม่ต้องพูดถึง ยังเอาตัวเองไม่รอด พอมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้รับคำแนะนำจากผู้รู้ต่างๆ เราเริ่มมองวิธีคิดของคนสำเร็จ เริ่มอ่านหนังสือความสำเร็จ ผู้เขียนเริ่มศึกษาอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์แห่งความสำเร็จ ด้านวิทยาศาสตร์ สนใจวิวัฒนาการมนุษย์ความจนความรวย หนังสือแนวพลังจิต จิตใต้สำนึก กฎพลังจักรวาล กฎแรงดึงดูด ทั้งหนังสือไทยและต่างประเทศ และเข้าไปศึกษาหลักธรรม ปฏิบัติธรรม เกิดสติ ใจสงบ เห็นทางออกมากขึ้น นำมาใช้กับชีวิตตัวเอง
และนอกจากนี้ ผู้เขียนเอง ก็พบว่าจริงๆ คนที่ร่ำรวยร้อยล้านพันล้าน จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้วิ่งหาเงิน แต่พวกเขาวิ่งหาความสุขที่ได้ให้คุณค่าผู้คนผ่านงานที่พวกเขาทำ พวกเขาเลือกชีวิตได้
ฉะนั้น แนวคิดของผู้เขียน คำว่า อิสรภาพทางการเงิน มัน คือ ความสุขเป็นตัวตั้ง เรามี Passive Income ประมาณหนึ่ง คุณได้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ฉะนั้น เราออกแบบว่าเราจะเป็นคนที่มีความสุข มีชีวิตที่มีคุณค่า ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น มีรายได้ใช้จ่ายได้พอเหมาะกับชีวิตของตัวคุณเองและครอบครัว มีเวลาให้กับสิ่งที่เราเลือกอย่างเต็มที่
การได้ออกแบบได้แบบนี้ มันคือพลังชีวิต เป็นแรงผลักดันให้คุณใช้ชีวิต การที่คุณเริ่มคิดว่า จะไปซื้อบ้านอยู่ต่างจังหวัดอยู่กับคนที่คุณรัก มีกิจกรรมทำกับคนรัก นี่คือแค่คุณคิดและอมยิ้มได้ มันเป็นการออกแบบชีวิตแล้ว และคุณใช้ความสุขนำทาง แน่นอนความจริงจะตามมา ความสำเร็จจะเกิดขึ้นเร็วขึ้น
2. หมดกังวลเรื่องเงิน
จงตั้งเป้าหมายออกแบบชีวิตของคุณตามข้อที่หนึ่ง และตอบโจทย์ในข้อที่หนึ่งได้ เช่น หากคุณมีเป้าหมายอยากมีบ้านติดทะเล อยากมีที่ดิน คุณต้องมีความชัดเจนกำหนดเวลาที่ชัด กำหนดจำนวนเงินที่ต้องใช้เงินเท่าไร เป้าหมายจากจิตใจหรือโจทย์ของคุณชัดเจน คุณต้องมาดูว่าตอนนี่มีเงินเท่าไร และต้องใช้เงินอีกเท่าไร และก็ลงมือเขียนแผนการสร้างรายได้และวิธีหามัน
โดยการสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง ถ้าตำราฝรั่งจะเรียกว่า Multi-income Stream ลองนึกภาพคนหนึ่งค่อยๆ ทำงาน มีรายได้จากการทำงานประจำอย่างมีความสุข หยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำงานแบบนี้ทุกๆ ปี รอเกษียณ และลองมองตัวอย่าง คนรอบข้างของคุณ หรือคนที่คุณรู้จัก พวกเขาใช้ชีวิตแบบเดียวกับคุณและเกษียณมาก่อนคุณ ชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างไร คุณจะได้คำตอบ แน่นอนหากคนรอบข้างคุณ เมื่อแก่ลงไม่รวย และไม่มีรายได้พอใช้ รอเงินจากรัฐ ใช้บัตรเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล นั้นคือคำตอบชีวิตของคุณ เป็นไปตามค่าเฉลี่ยชีวิตของคุณมีเพื่อนหรือคนรอบข้างแบบไหน ชีวิตมักไม่ต่างกันมาก
หากวันนี้ คุณมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน มาเริ่มสร้างแผนกิจการจากงานอดิเรกหรือสิ่งที่รักที่ชอบ แล้วพัฒนาให้เป็นรายได้ เช่นตัวอย่าง อาจมีบ้านเช่า 1-2 หลัง ถ้าเราทำงานเงินเดือน 20,000-30,000 บาท ก็มีบ้านเช่า 1-2 หลังเป็นเรื่องไม่เกินความสามารถเกินไป เราก็จะมีรายได้จากค่าเช่า รวมทั้งเงินออมก็เอาใส่กองทุน หรือเอาไปไว้ในหุ้นบ้างเพื่อให้มีเงินปันผล แล้วลองถามตัวเองว่ามันดีไหม ถ้าในแต่ละเดือนจะมีรายได้ทั้งจากการทำงาน ที่ทำให้เรามีความสุขและความภาคภูมิใจ และเงินสะสมก็สร้างดอกเบี้ยให้ใช้ หุ้น กองทุนรวมก็ทำให้เรามีเงินปันผล ทรัพย์สินให้เช่าก็ทำให้เรามีค่าเช่า ธุรกิจอาจเริ่มต้นจากตัวเรา และมีลูกน้อง ถ้าทุกเดือนมีรายได้มาจากหลายช่องทางอย่างละนิดอย่างละหน่อย กินใช้ไม่หมดก็เหลือสะสม ยิ่งสะสมก็ยิ่งมั่งคั่ง แล้วมาถึงจุดหนึ่งมันก็จะตอบโจทย์อิสรภาพทางการเงิน หรือแผนของการใช้ชีวิตที่คุณเลือกเองได้
ผู้สำเร็จทุกคนล้วนแล้วพูดเหมือนกันว่า เรามีอิสรภาพในบั้นปลายได้ สิ่งสำคัญก็คือตลอดระยะเวลาในการเดินทาง ตลอดเวลาแห่งการทำงานต้องแปลงรายได้ที่เราหามาได้ไปเป็นทรัพย์สินให้ได้ นี่คือ หัวใจสำคัญ พอออกแบบได้แบบนี้มันจะเรียบและง่ายมีอิสรภาพจริงๆ

เขียนบทความ โดยอามิ : Ami